วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อาการแพ้ท้อง ..และการแก้ไข อยากให้ทิพย์หายแพ้เร็ว ๆ


อาการแพ้ท้องและการแก้ไข
โดย นพ.ธีรศักดิ์ ธำรงธีระกุล และทีมแพทย์ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากวิภาวดี

อาการแพ้ท้อง เป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ที่ตั้งครรภ์อ่อน ๆ (ภายใน 3 เดือนแรก) คือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เป็นมากหรือน้อยในแต่ละคนแตกต่างกันไป ไม่ทราบกลไกการเกิดที่แน่นอนเชื่อว่าเกิดจากฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ มักไม่มีอันตรายอะไร ยกเว้นคนที่อาเจียนมากจนรับประทานอะไรไม่ได้ทั้งวันหลายๆวันจนเกิดภาวะ ขาดอาหาร น้ำ และเกลือแร่

ทำอย่างไรไม่ให้มีอาการแพ้ท้อง เนื่องจากเราไม่ทราบสาเหตุของการแพ้ท้องจึงยังไม่สามารถป้องกันได้ แต่จากการสังเกตเราจะพบว่าเมื่อตั้งครรภ์จะมีอาการหิวบ่อย อ่อนเพลียง่าย ปัสสาวะบ่อยขึ้น มีความไวต่อกลิ่นต่าง ๆ โดยเฉพาะกลิ่นอาหารที่อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ (การชอบหรือไม่ชอบชนิดอาหารขณะตั้งครรภ์ อาจเปลี่ยนไปจากก่อนตั้งครรภ์)

ถ้าหิวแล้วบางคนจะกระวนกระวายมาก และถ้าไม่ได้รับประทานอาหารทันทีขณะหิวจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนรับประทานอะไรไม่ได้และหิวเป็นวงจรให้คลื่นไส้อาเจียนเรื่อย ๆ ได้ อาการแพ้ท้องมักมีมากขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนเพลียด้วย

ข้อแนะนำ คือ
1. พักผ่อนให้เพียงพอทั้งทางร่างกายและจิตใจ

2. เมื่อหิวควรหาอาหารรับประทานทันที ไม่ควรรอเวลาหรือรอให้หิวจัด จะพบว่าจะเริ่มหิวทุก 2-3 ช.ม. ไม่ว่าจะรับประทานอาหารมากหรือน้อยก่อนหน้านี้ จึงควรนำอาหารที่ชอบ พกพาสะดวกติดตัวไว้ด้วยเสมอเพื่อหยิบรับประทานได้ทันทีที่หิว ไม่ควรรับประทานครั้งละมาก ๆ ควรรับประทานแค่หายหิวในแต่ละครั้ง ดื่มน้ำทีละน้อย บ่อย ๆ ป้องกันร่างกายขาดน้ำ

3. ในระยะนี้เลือกรับประทานอาหารที่ชอบก่อน ยังไม่ต้องคำนึงว่ามีประโยชน์มากน้อยเพียงใด

4. การรับประทานวิตามินรวมจะช่วยให้อาการแพ้ท้องดีขึ้น โดยเฉพาะวิตามินบี 6 ยังไม่ควรรับประทานยาบำรุงเลือดที่เข้าแร่เหล็ก เพราะจะทำให้คลื่นไส้ได้ เลือกรับประทานยี่ห้อที่มีกลิ่นรสที่เราชอบ

5. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด มีเครื่องเทศมาก

6. ควรรับประทานอาหารเบาๆ (เช่น แครกเกอร์) และ/หรือ เครื่องดื่มอุ่น ๆ ก่อนนอน จะทำให้หลับสบาย ควรเตรียมไว้ที่ห้องนอน เผื่อลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกแล้วรู้สึกหิว จะได้ดื่ม-รับประทานได้ ตอนเช้าควรดื่มเครื่องดื่มที่เตรียมไว้ หรือรับประทานแครกเกอร์เมื่อตื่นนอนขึ้นทันทีก่อนลุกจากเตียงไปทำกิจวัตรประจำวัน

การรับประทานยาแก้แพ้ท้อง ยาที่ป้องกันอาเจียนมีหลายชนิด แต่ที่นับว่าปลอดภัยมีอยู่ 2-3 ชนิด ท่านควรปรึกษากับแพทย์ที่ดูแล

ถ้าแพ้ท้องมากจนเสียความสมดุลย์น้ำและเกลือแร่ ท่านจะมีอาการอ่อนเพลียมาก ควรนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือแร่ทดแทน

เมื่อไรควรรีบไปโรงพยาบาลจากอาการแพ้ท้อง

1. เมื่อปัสสาวะออกน้อย (< 500 ซซ./วันหรือ 20 ซซ./ชม.) และมีสีเหลืองเข้ม

2. ดื่มน้ำไม่ได้เลยทั้งวัน

3. มีอาการหน้ามืดเมื่อลุกขึ้นยืน

4. อาการใจสั่น เต้นแรงมาก

5. อาเจียนมีเลือดปนออกมา แสดงว่ามีอาการแพ้ท้องมากเกิน เข้าเขตอันตรายแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น