วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ยารักษาสิว

                 ขอเตือนคนที่กำลังเป็นคุณแม่ที่รักสวยรักงาม และกลัดกลุ้มกับปัญหาเรื่อง “สิว” ที่มากวนใจ ต้องระมัดระวังอย่างหนัก จะหยิบจะจับยากินหรือทายารักษาสิวชนิดใด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ เพราะยารักษาสิวนั้นมีสิทธิ์อาจทำให้ลูกในท้องถึงขั้น พิการได้เลยทีเดียว!!
                  
                  ทั้งนี้ นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนัง และอาจารย์พิเศษภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เขียนบทความเรื่อง โรคสิวในเวชปฏิบัติ ในวารสารการแพทย์ (วารสารคลินิก) เดือนกุมภาพันธ์ เตือนเอาไว้ว่า
               ยารักษาสิวหลายตัวทั้งในรูปแบบทายาและยากิน มีผลเสียต่อเด็กในครรภ์ได้ โดยเฉพาะกลุ่มยาทาสิวที่ต้องระมัดระวังคือ ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ หรือ เรตินอยด์ ได้แก่ Tretinoin, Isotretinoin, Adapaleno ซึ่งยากลุ่มนี้ยังไม่ยืนยันความปลอดภัยสำหรับหญิงมีครรภ์ ส่วน Tazarolene นั้นห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์โดยเด็ดขาด
                  ส่วนยากินที่ใช้รักษาสิวและห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ เด็ดขาด คือยากลุ่มเดตตร้าชัยคลิน ได้แก่ Tetracycline, Doxycycline และ Minoeyeline ซึ่งเป็นยากินรักษาสิวที่ใช้กันมาก เนื่องจากยาตัวนี้มีผลต่อกระดูกและฟันของเด็กอ่อนในครรภ์และเด็ก จึงห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ และไม่ให้ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบ หรือจนกว่าจะมีฟันแท้ ขึ้นครบ ส่วนยากินกลุ่มซัลฟา คุณหมอประวิตรก็ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงมีครรภ์ และยาสำหรับกินรักษาสิว กลุ่มฮอร์โมน เช่น Spironolactone, Cyproterone acetate ระหว่างกินยาชนิดนี้ก็ห้ามตั้งครรภ์ เพราะลูกน้อยในท้องที่เป็นเพศชาย มีสิทธิ์กระเดียดเป็นเพศหญิงได้
                 นอกจากนี้ คุณหมอประวิตรยังย้ำอีกว่า ยากินรักษาสิวที่มีผลเสียต่อเด็กทารกมากที่สุด เป็นเหตุให้เด็กต้องพิการหลายพันคนทั่วโลก คือ เรตินอยด์ หรือ Isotretinoin ยาตัวนี้จะทำให้เด็กทารกพิการ ดังนั้นสาวๆกำลังตั้งครรภ์ต้องจำขึ้นใจอย่าใช้ยาตัวนี้เด็ดขาด หรือใครที่คิดจะตั้งครรภ์ เคยใช้ยาตัวนี้ก็ต้องหยุดกินยาให้ครบ 1 เดือนก่อน การตั้งครรภ์จึงปลอดภัย และระหว่างให้นมลูกก็ห้ามใช้ยาตัวนี้ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงห้ามบริจาคเลือดระหว่างกินยานี้ การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ส่วนความผิดปกติที่พบร้อยละ 25-30 ของหญิงตั้งครรภ์ที่กินตัวยานี้ เด็กมีความผิดปกติในกะโหลกและใบหน้า หัวใจ ระบบประสาทส่วนกลาง
               ที่ต้องออกมาเตือนกันนั้น คุณหมอประวิตรบอกว่า เป็นเพราะในเมืองไทยสามารถหาซื้อยา ตัวนี้ได้ง่ายและไม่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์นั่นเอง!!


เนื้อหาจาก sanook.com

           

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ลูกเริ่มดิ้น ....ออกกำลังกายในครรภ์แม่ถี่ขึ้น

           หลังจากไม่ได้พบกับทิพย์นับได้ก็ 6 วันที่ผ่านมา  ได้อยู่ด้วยกันเมื่อคืนนี้ ท้องโตขึ้นเห็นได้ชัดเจนครับ ทิพย์บอกว่าลูกดิ้นถี่และชัดเจนขึ้นอาหารการกินช่วงนี้ทานได้เยอะขึ้น เมื่อคืนมีหิวกลางดึกแต่ว่าที่คุณแม่ไม่ได้ลุกขึ้นมาทานครับ รอถึงเช้าผมไปส่งที่ทำงานที่วังน้อย ตอนนั่งรถไปบ่นหิว สงสัยเมื่อคืนนี้น้องจะออกกำลังกายเยอะไปหน่อย ก่อนนอนผมเริ่มคุยกับลูก 6 วันที่ผ่านมาที่เราไม่ได้เจอกันพ่อไปทำอะไรมา เล่าเหมือนเล่านิทาน เสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ลูกจะได้จำเสียงเราได้ หลังจากพูดคุยกับเขาเสร็จ ใช้มือลูบหน้าท้องทิพย์ และวางมือเบา สังเกตได้ชัดว่าน้องดิ้นแรง ๆ มือผมสัมผัสได้ประมาณ 6 ครั้ง และก็หยุดไป น่าจะหลับไปแล้ว วันนี้ว่าที่คุณแม่คนเก่งทำงานครับ ส่วนผมวันนี้พักผ่อนเพราะฝนเป็นใจ กะจะออกไปตั้งร้านแต่ฝนตกตอน 8.00 น. ขอเปลี่ยนใจ ทำงาน Online ที่ค้างอยู่แล้วกันครับ ไม่ได้ปรับปรุงร้านสมุนไพรทิพย์ หลายสัปดาห์แล้วครับ

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ว่าที่คุณแม่...หญิงแกร่งสำหรับคุณแม่ของลูกผม

นับถึงวันนี้เป็นเวลา 6 วันแล้วครับ ที่ผมและทิพย์ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เช้าวันจันทร์ผมขับรถไปส่งเธอที่ บริษัท ฯ (วังน้อย )เย็นวันอังคารที่ 10 ส.ค. 53 ผมกลับบ้านต่างจังหวัดที่สกลนคร ไปทำธุรกิจส่วนตัว ( ดำนาช่วยแม่ ) กลับบ้านไปหาแม่ด้วยหลังจากกลับไปหาแม่ครั้งล่าสุด เมื่อสงกรานต์ เมษาที่ผ่านมา ทิพย์ทำงานถึงวันที่ 11 ส.ค.53 หยุดงาน 12 ส.ค.53 - 14 ส.ค.53 เช้าวันที่ 12 ส.ค. 53 ทิพย์เดินทางกลับบ้านที่สุพรรณ เป็นครั้งแรกของการเดินทางระหว่างการตั้งครรภ์ ลำบากนิดหนึ่งนะครับ เช้าวันที่ 12ส.ค. เธอเล่าว่ารอรถสองแถวหน้าโรงงานตั้ง 1 ชม.กว่ารถจะมาไปถึงศรีประจันต์ 10.00 น. แม่มารับ
วันนี้ เธอเดินทางกลับ เย็นนี้เจอกันให้หายคิดถึงครับ ต้องขอขอบคุณโทรศัพท์ ที่ทำให้เราติดต่อกันได้วันละหลาย ๆครั้ง พูดคุยสอบถาม เกี่ยวกับตัวเธอ และ ทารถน้อยในครรภ์ ครับ

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

9 เดือนมหัศจรรย์......กับครรภ์คุณภาพ (2)

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น จัดโครงการอบรม"คุณแม่คุณภาพ" ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 เมื่อวันเสาร์ ที่ 24 เมษายน 2553 โดยมีการบรรยายให้ความรู้กับว่าที่คุณแม่ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจก่อนการคลอด ซึ่งช่วงที่ 1 "9 เดือนมหัศจรรย์ ... กับครรภ์คุณภาพ "โดย พญ.วิมลมาศ สุภาพร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช

9 เดือนมหัศจรรย์ ... กับครรภ์คุณภาพ

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น จัดโครงการอบรม"คุณแม่คุณภาพ" ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 เมื่อวันเสาร์ ที่ 24 เมษายน 2553 โดยมีการบรรยายให้ความรู้กับว่าที่คุณแม่ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจก่อนการคลอด ซึ่งช่วงที่ 1 "9 เดือนมหัศจรรย์ ... กับครรภ์คุณภาพ "โดย พญ.วิมลมาศ สุภาพร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช


วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ตรวจครรภ์เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 53

           จากการตรวจครรภ์ทิพย์ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 53 ผลจากการอัลตร้าชาวด์ คุณหมอยังไม่สามารถบอกเพศได้ครับ น้องยังอายอยู่ครับ แต่ไม่เป็นไร สำหรับผมภาวนาให้ลูกเกิดมาสุขภาพร่างกายแข็งแรง น้ำหนักทิพย์ขึ้น 3.5 กิโลกรัม ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่หมอตั้งไว้สักเท่าไหร่ เพราะหมอบอกว่าให้ได้สัปดาห์ละ ครึ่ง กิโลกรัม ให้กำลังใจว่าที่คุณแม่ต่อไป ช่วงนี้ลูกโตขึ้นทุกวันอาจจะไปดันกระเพาะ ถ้าว่าที่คุณแม่ทานอิ่มก็จะอึดอัด แนวทางในการแก้ไขเบื้องต้นที่ทำได้ควรแบ่งมื้ออาหารออกครับ อย่าทานเป็นมือหนัก เช้า กลางวัน เย็น ควรย่อยออกมาอีกสัก 2-3 มื้อ รวมเป็น 6 มื้อต่อวัน  ว่าที่คุณแม่ของลูกก็ปฏิบัติตามอยู่ครับ  ในระหว่างเดือนที่ 5 -7 ลูกเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วผมก็เลยกำหนดให้ว่าที่คุณแม่พยายามทานนมให้ได้วันละ 750 ml . เป็นอย่างน้อย และช่วงนี้อาจมีอาการท้องผูกร่วมด้วย ทานผักผลไม้เยอะ ๆ เป็นผลดีต่อลูกและคุณแม่แน่นอนครับ

         สำหรับพัฒนาการของทารกน้อยเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่ 24 ทารกจะมีความยาวประมาณ 13 นิ้ว มีน้ำหนักประมาณ 2 ปอนด์ และอวัยวะต่างๆได้มีการพัฒนาไปจนเกือบสมบูรณ์แล้ว


         ใบหน้าเล็กๆและเรียว ทำให้ดูตาโต และเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่ 22 - 24 เปลือกตาเริ่มที่จะเปิดออกได้ ทารกจะสามารถลืมตาได้แล้ว และมีขนคิ้วขึ้นบางๆ

          หากในเดือนนี้คุณได้รับการตรวจอัลตร้าซาวด์ คุณอาจกำลังพยายามนึกถึงคนในครอบครัวว่าทารกจะคล้ายกับใคร แต่อย่าเพิ่งกังวลเพราะหน้าตาจะยังเปลี่ยนไปอีกมากกว่าจะคลอด

          ผิวหนังของทารกยังคงบางมาก แต่ตอนนี้ไม่สามารถมองทะลุลงไปเห็นเครือข่ายเส้นเลือดได้แล้ว ผิวหนังของทารกตอนนี้จะเห็นเป็นสีออกแดงระเรื่อ และอาจจะดูเหี่ยวย่นเนื่องจากยังมีไขมันมาสะสมตามร่างกายไม่มากนัก และต่อมเหงื่อได้มีการพัฒนาขึ้นภายใต้ผิวหนัง

         นิ้วมือกำลังพัฒนา ทารกของคุณมีลายนิ้วมือแล้วในตอนนี้เช่นเดียวกับนิ้วเท้า

           ทารกจะถูกล้อมรอบด้วยน้ำคร่ำ 500 มิลลิลิตร ซึ่งจะช่วยให้ทารกสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและช่วยให้ทารกสามารถพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคล้ายกับการซ้อมเคลื่อนไหว หรือออกกำลังกาย หรือบิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสายให้หายเมื่อย ทารกสามารถเตะ ดูดนิ้ว หรือ อ้าปาก นอกจากนี้ทารกของคุณสามารถไอหรือสะอึกได้ด้วย แต่ไม่ต้องกังวลเพราะทารกสามารถช่วยตัวเองได้โดยกลืนน้ำคร่ำอุ่นๆเข้าไป เพราะนี่เป็นกลไกของธรรมชาติ

          ทารกยังสามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวหรือเสียงดังจากภายนอกได้ กระดูกในหูของทารกเริ่มแข็งขึ้นและช่วยให้สามารถได้ยินเสียงต่างๆได้ดีขึ้น ทารกสามารถแยกเสียงที่เกิดขึ้นจากภายในมดลูกและจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ ดังนั้น หากจะเริ่มพูดคุยกับลูกในตอนนี้ลูกก็จะสามารถจดจำเสียงของคุณได้ ว่าที่คุณพ่อก็ควรเริ่มพูดคุยกับลูกด้วยเช่นกัน มีรายงานการวิจัยว่าเสียงทุ้มต่ำของคุณพ่อจะช่วยให้ลูกได้ยินได้ง่ายกว่าเสียงแหลมสูงของแม่

          บางทีการที่คุณมีกิจกรรมมากในแต่ละวันอาจทำให้พลาดโอกาสดีๆไป ควรหาเวลาพักบ้าง คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของทารกว่ากำลังทำอะไรอยู่ภายในนั้น บางทีคุณจะรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหว หมุนตัว เตะ หรือชก เกิดจากอวัยวะใดของทารก ส่วนที่นูนขึ้นมาตรงหน้าท้องของคุณคือส่วนไหน อาจทำให้คุณสามารถจินตนาการถึงกิจกรรมต่างๆของทารกได้

           อัตราการเต้นของหัวใจของทารกในขณะที่จะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 140 – 150 ครั้ง/นาที และตอนนี้อวัยวะทั้งหมดยกเว้นปอดสามารถทำงานได้แล้ว

         หากเราได้ทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองของทารกเมื่ออายุครรภ์ 24 สัปดาห์นั้น เราจะพบว่าเซลล์สมองได้มีการพัฒนาส่วนที่รับรู้สติและทารกจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าจากภายนอกมากขึ้น และได้มีการพัฒนาวงจรของการหลับและการตื่น

         ปอดของทารกตอนนี้ยังเต็มไปด้วยน้ำคร่ำ และยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาต่อไปอีกหลายสัปดาห์จนกว่าถุงลมปอดเล็กๆนั้นจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้

         ระบบทางเดินอาหารมีการพัฒนาจนสามารถดูดซึมน้ำคร่ำได้และทำงานอย่างเป็นระบบ ทารกมีการกลืนน้ำคร่ำเข้าไปและขับถ่ายออกมาหมุนเวียนเป็นน้ำคร่ำใหม่