วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

นับการตั้งครรภ์ของว่าที่คุณแม่ของผม สัปดาห์ที่ 19 แล้วครับ

    ใกล้ถึงครึ่งทางแล้วครับ สำหรับสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์   ในเดือนกรกฎาคม หมอนัดตรวจครรภ์ในวันที่  31  ก.ค.  53   ครั้งนี้น่าจะทราบเพศของทารกได้ครับ  สัปดาห์ที่ 19  นี้ ว่าที่คุณแม่ของลูกทานได้เพิ่มขึ้น ชั่งน้ำหนัก น่ำหนักเพิ่มขึ้น 3.5  กก. เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คุณหมอให้ว่าที่คุณแม่ เพิ่ม นน. สัปดาห์ละ  ครึ่ง กิโลกรัม ครับ แต่สำหรับผมตอนนี้จะ 80   กิโลกรัมอยู่แล้วครับ  น้ำหนัก ขึ้นไม่ยั้งตั้งแต่แฟนตั้งครรภ์มา จนโดนแซวสงสัยจะแพ้ท้องแทนเมีย   สังเกตอาการของผมที่ไม่เคยเกิดขึ้น และมีอาการช่วงที่ทิพย์ท้องคือ  น้ำลายออกเยอะในบางช่วง  พอน้ำลายออกมาเยอะต้องหาอะไรทาน ถ้าไม่ทานจะเกิดอาการปั่นป่วนในท้อง  แต่ยังไม่ถึงขั้นอ้วกครับ .....เอ มันเกิดอะไรขึ้น     สำหรับว่าที่คุณแม่แล้วช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นเยอะครับ ตามตำราบอกไว้ดังนี้ 

การเปลี่ยนแปลงของร่างกายคุณแม่


ร่างกายของคุณแม่ขณะนี้จะขยายใหญ่ขึ้น ไม่เพียงแต่หน้าท้องเท่านั้น แต่ต้นขาและน่องก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย ช่วงนี้ต้องทาครีมป้องกันท้องและส่วนที่ขยายจะลายครับ( แนะนำครีม ดีไลท์ จากร้านสมุนไพรทิพย์ครับ )   ตอนนี้ส่วนยอดของมดลูกจะอยู่ที่บริเวณสะดือ หากลองวางนิ้วลงไปบริเวณนั้นบางทีคุณแม่อาจจะรู้สึกได้ มดลูกจะมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆและมีขนาดโตขึ้นสัปดาห์ละประมาณ 1 เซนติเมตร สีผิวบริเวณกึ่งกลางของท้องจะเข้มมากขึ้น และคุณแม่อาจพบว่ามีสีผิวเข้มขึ้นเป็นบางจุดบนใบหน้าด้วย คุณแม่จะมีเหงื่อออกมากในช่วงนี้เนื่องจาก อัตราการเผาผลาญพลังงานที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดความร้อน

เต้านมยังคงขยายใหญ่ขึ้นไปอีก และสีผิวบริเวณหัวนมจะเข้มขึ้น คุณแม่จะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นอย่างน้อย 6 ปอนด์แล้วในตอนนี้

เมื่อคุณแม่นอนลงหรือนั่งพัก ในท้องของคุณไม่หยุดพักตามไปด้วย เมื่อทารกมีการเคลื่อนไหวและพัฒนากล้ามเนื้อต่างๆ ในช่วงเย็นๆคุณแม่จะพบว่าเป็นช่วงที่ทารกมักมีการเคลื่อนไหวมากที่สุด

คุณอาจจะยังคงมีอาการท้องผูกเช่นเดิม อาจมีอาการแสบลิ้นปี่และอาการที่เกิดจากอาหารไม่ย่อย เช่น ท้องอืด เรอ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากผิดปกติ

คุณแม่ยังคงต้องเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะบ่อยๆ (คุณแม่จะปัสสาวะถี่ขึ้นอีกครั้งเมื่อถึงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากขนาดของมดลูกที่โตขึ้นจะทำให้ไปกดกระเพาะปัสสาวะ)

คุณแม่อาจวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาการอ่อนเพลีย กังวล หรือแม้แต่ความหิวก็อาจเป็นสาเหตุ หากคุณแม่มีอาการปวดศีรษะรุนแรงแบบไมเกรน ควรปรึกษาแพทย์ อย่าใช้ยาเองโดยเฉพาะแอสไพริน

คุณแม่อาจจะรู้สึกคัดจมูกและมีน้ำมูก เหมือนกับเป็นภูมิแพ้นอกฤดูกาล

คุณแม่จะรู้สึกหิวมากขึ้น และค้นหาของกินอยู่ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น